ปัจจุบัน EV Car ได้รับความนิยม และมีการพัฒนาระบบการชาร์จมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับปริมาณรถไฟฟ้ายุคใหม่ ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มี 2 แบบ คือ การชาร์จแบบ AC (Alternating current) และการชาร์จแบบ DC (Direct current) วันนี้ GermanAutoFilms จะพามาทำความรู้จักกับหัวชาร์จทั้ง 2 แบบ
🔋 AC Charger (Alternating current)
การชาร์จด้วยไฟฟ้าแบบสลับ เป็นไฟฟ้าที่มีการไหลของกระแสสลับไปมาตลอดเวลา ไม่มีขั้วบวกหรือขั้วลบ โดยจะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ประมาณ 4-16 ชั่วโมง การชาร์จแบบนี้เหมาะกับการชาร์จข้ามคืน สามารถใช้ไฟบ้านในการชาร์จได้โดยตรง ใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น และรถยนต์ไฮบริด
⛔️ ข้อเสียคือใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน
⛔️ กำลังชาร์จเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 22 kW เท่านั้น
⛔️ ไม่เหมาะกับการชาร์จในช่วงเวลาเร่งรีบ
🔋 DC Charger (Direct current)
การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง โดยไม่ต้องผ่าน On Board Charger เหมือน AC Charger ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 30 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ทันที จะเห็นได้ว่ามีเครื่อง DC Charger อยู่ตามห้างสรรพสินค้า หรือปั๊มน้ำมัน และปัจจุบันมีหลายขนาดและหลายรูปแบบให้เลือกตามการใช้งาน
⛔️ เมื่อชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง อัตราค่าไฟจึงสูงกว่ามาก
⛔️ ยังมีสถานีชาร์จแบบ DC Charger ไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร
⛔️ ตัวแบตเตอรี่อาจเสื่อมสภาพไว หากชาร์จบ่อยมากเกินไป
เลือกแบบไหนดีที่สุด?
ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ ถ้าชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน AC Charger เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว หรืออยู่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ DC Charger ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
และเพื่อช่วยลดการทำงานหนักของระบบรถยนต์ไฟฟ้า ควรเลือกฟิล์มเซรามิกแท้ มาตรฐานเยอรมัน ฟิล์มกรองแสง 🔵 BLAUPUNKT ช่วยลดความร้อนภายในรถและป้องกันรังสี UV ได้อีกด้วย!